เทคโนโลยี Digital Door Lock ระบบรักษาความปลอดภัยยอดนิยมสำหรับโรงแรม

ความปลอดภัยด้วย Digital Door Lock

เทคโนโลยี Digital Door Lock ระบบรักษาความปลอดภัยยอดนิยมสำหรับโรงแรม

ความปลอดภัยด้วย Digital Door Lock

ด้วยความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของนวัตกรรมในปัจจุบัน ทำให้เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทในเกือบทุกกิจกรรมของการดำเนินชีวิตของผู้คน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีสำหรับเครื่องใช้ภายในบ้านและที่พักอาศัย  ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้ใช้นั่นเอง หนึ่งในเทคโนโลยีเหล่านั้นได้แก่ ระบบล็อกประตูดิจิทัล หรือที่เรามักเรียกกันว่า “Digital Door Lock” นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในธุรกิจโรงแรมซึ่งถูกพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับความปลอดภัยและให้ใช้งานร่วมกันกับเทคโนโลยีอื่นๆ ภายในที่พักอาศัยได้อย่างไร้รอยต่อ

กลอนประตูอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Door Lock) คืออะไร?

Digital Door Lock”  หรือ “กลอนประตูอิเล็กทรอนิกส์” คือ ระบบล็อกประตูดิจิทัลสำหรับโรงแรมและที่พักอาศัย ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถช่วยรักษาความปลอดภัยให้แขกที่เข้าพักในโรงแรมรู้สึกอุ่นใจ เพราะมีความเชื่อมั่นต่อระบบล็อคประตูที่มีประสิทธิภาพ  

ระบบล็อคประตูอิเล็กทรอนิกส์เป็นนวัตกรรมการล็อคล้ำสมัยที่ระบบจะทำการล็อคอัตโนมัติทุกครั้งที่ประตูปิดลง ซึ่งในปัจจุบันผู้ใช้งานสามารถควบคุมการเปิด-ปิดได้หลากหลายรูปแบบ เช่น การกดตัวเลขรหัสบนแผงหน้าจอ การใช้แอปพลิเคชันบนสมาร์โฟน การใช้คีย์การ์ดสำหรับปลดล็อค หรือแม้กระทั่งการสแกนลายนิ้วมือ

ทั้งนี้ระบบล็อคประตูอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับเครือข่าย WIFI ภายในอาคาร เพื่อเปิดใช้งานและสั่งการผ่านสมาร์ทโฟนได้อย่างอิสระ อีกทั้งยังช่วยยกระดับความปลอดภัยให้เหนือกว่าอีกขั้น ด้วยระบบป้องกันการโจรกรรมอัจฉริยะ อาทิ การส่งเสียงร้องแจ้งเตือน (Alarm) ผ่านแอปพลิเคชัน หรือการหยุดทำงานชั่วคราวเมื่อถูกงัดประตู

สำหรับผู้ประกอบการโรงแรม หรือผู้ที่กำลังมองหาระบบล็อคประตูที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อนำไปใช้งาน ลองมาศึกษาข้อมูลเบื้องต้นของระบบล็อคประตูโรงแรมแบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงวิธีการเลือกซื้อว่าควรต้องคำนึงถึงเรื่องใดเป็นพิเศษ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าต่อการใช้งานมากที่สุด

เทคนิคการเลือกกลอนประตูอิเล็กทรอนิกส์

ปลดล็อคประตูโรงแรมและที่พักอาศัยด้วยสมาร์ทโฟน

สำหรับธุรกิจโรงแรมทั้งขนาดเล็กและใหญ่ ระบบล็อคประตูดิจิทัลถือเป็นเทคโนโลยีที่คุ้นเคยสำหรับใช้เพื่อรักษาความปลอดภัยให้ผู้เข้าพักอาศัย ซึ่งนอกจากจะมีประสิทธิภาพต่อการใช้งานแล้ว ยังสามารถใช้งานได้สะดวก ง่ายต่อการเปิด-ปิด รวมถึงมีความทันสมัย และช่วยเสริมภาพลักษณ์ของโรงแรมได้อีกด้วย เพื่อให้เลือกใช้ได้อย่างถูกต้อง เราจึงมีเทคนิคการเลือกกลอนประตูอิเล็กทรอนิกส์ให้เหมาะสมกับการใช้งานมาฝากสำหรับผู้ที่สนใจสามารถนำไปปรับใช้กันได้

1. เลือกจากประเภทของกลอนประตูอิเล็กทรอนิกส์

ในปัจจุบันนี้ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ กลอนประตูหลัก (Main Lock) และกลอนประตูเสริม (Rim Lock) โดยจะมีการใช้งานที่แตกต่างกันไป  

กลอนประตูหลัก (Main Lock)

กลอนประตูหลัก (Main Lock) คือ กลอนประตูอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อติดตั้งแทนกลอนประตูรูปแบบเดิม โดยจะแบ่งย่อยตามกลไกการล็อกได้อีก 2 แบบ

  • ลูกบิดประตู (Door Knobs) : สามารถติดตั้งแทนลูกบิดดั้งเดิมได้พอดี ไม่ต้องทำการเจาะสว่านเพิ่มเติม สามารถติดตั้งได้ด้วยตนเองง่ายๆ เพียงใช้แค่ไขควงเท่านั้น
  • ชุดล็อกแบบมีตลับ (Mortise Lock) : ชุดกลไกการล็อกที่ซับซ้อนกว่าแบบแรก มาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยงาม ทันสมัย มีระบบการป้องกันการถูกงัดที่มีประสิทธิภาพ แต่ไม่สามารถติดตั้งได้ด้วยตนเองเนื่องจากเป็นระบบที่ซับซ้อน

กลอนประตูเสริม (Rim Lock)

กลอนประตูเสริม (Rim Lock) คือ กลอนอิเล็กทรอนิกส์ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันความปลอดภัยได้อย่างแน่นหนาอีกระดับ โดยจะติดตั้งแยกกับลูกบิดประตู แต่สามารถติดตั้งได้ด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม การใช้งานกลอนประตูเสริมโดยลำพัง อาจจะยังไม่มีความปลอดภัยมากพอ จึงต้องใช้งานร่วมกับกลอนประตูหลัก (Main Lock) 

สำหรับกลอนประตูแบบ Rim Lock นั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะสามารถรองรับการใช้งานร่วมกับประตูได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นประตูบานเปิด ประตูบานเลื่อนเดียว หรือประตูบานเลื่อนคู่

2. เลือกจากรูปแบบการปลดล็อค

แม้ว่าระบบล็อกประตูที่ใช้งานในโรงแรมและที่พักอาศัยนั้น จะมีการนำมาใช้งานได้สักพักแล้ว แต่นวัตกรรมด้านนี้ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ในปัจจุบันกลอนประตูอิเล็กทรอกนิกส์มีฟังก์ชันด้านการปลดล็อคมากมาย เพื่อตอบสนองการใช้งานได้อย่างครอบคลุม ในขณะเดียวกันกลอนประตูอิเล็กทรอกนิกส์บางแบรนด์ยังสามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมได้ เพื่อช่วยควบคุมการทำงานจากระยะไกล ซึ่งในแต่รุ่นก็จะมีฟังก์ชันที่แตกต่างกันไป เพื่อให้คุณได้เลือกรูปแบบการปลดล็อกที่ตอบโจทย์และเหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด 

3. เลือกจากฟังก์ชันการใช้งานเสริม

กลอนประตูอิเล็กทรอนิกส์บางรุ่นเริ่มมีการใส่ฟังก์ชันเสริมเข้ามาเพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพมากกว่าที่เคย ทั้งการล็อคแบบอัตโนมัติ ระบบการแจ้งเตือนกันขโมย ระบบการแจ้งเตือนระดับแบตเตอรี่ของกลอนประตู หรือแม้กระทั่งระบบความปลอดภัยขั้นสูงด้วยการตั้งรหัสเพียงแค่ครั้งเดียว

4. เลือกให้เข้ากับรูปแบบประตูที่จะติดตั้ง

ประตูของแต่ละบ้านมีดีไซน์และประเภทการใช้งานที่ไม่เหมือนกัน ทั้งประตูแบบบานเลื่อน ประตูกระจกบานเปลือย และประตูแบบธรรมดา ซึ่งในแต่ละประเภทก็มีความเหมาะสมกับกลอนประตูอิเล็กทรอนิกส์ที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับความหนาของประตู และรูปแบบการเปิด-ปิดอีกด้วย ดังนั้น เพื่อความมั่นใจว่าจะสามารถใช้งานกลอนประตูอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างแน่นอน อย่าลืมตรวจสอบประตูที่พักอาศัยของคุณก่อนตัดสินใจซื้อก็จะคุ้มค่าที่สุด 

และนี่คือข้อมูลเบื้องต้นทั้งหมดของกลอนประตูอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Digital Door Lock รวมถึงเทคนิคการเลือกซื้อที่คัดมาแล้วว่าตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างแน่นอน ซึ่งสำหรับใครที่ต้องการสั่งซื้อระบบล็อคประตูดิจิทัล สามารถขอคำแนะนำได้จากเรา บี.กริม เทรดดิ้ง เรามีทีมช่างผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้บริการการติดตั้งและดูแลด้วยคุณภาพ 

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-7103000

เรื่องล่าสุด

ประเภทของแสงไฟที่ใช้ภายในและภายนอกอาคาร

ประเภทของแสงไฟที่ใช้ภายในและภายนอกอาคาร

ถ้าเราลองนึกถึงบรรยากาศในแต่ละสถานที่ ระหว่างตอนกลางวันและตอนกลางคืนนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงใช่ไหมคะ ก็เหมือนกับเวลาเรามองตึกอาคาร ห้างสรรพสินค้าหรือแม้กระทั่งบ้านหรือห้องต่างๆ ตอนกลางคืนหรือตอนที่เปิดไฟแล้วรู้สึกว่าดูสวยกว่าตอนไม่ได้เปิดไฟ นั่นก็เป็นเพราะการใช้แสงมีผลต่อการตกแต่งทั้งภายในและภายนอกอย่างมาก การออกแบบแสงที่เหมาะสมจะช่วยสร้างมิติและบรรยากาศที่ต้องการ ตอบโจทย์เรื่องของการใช้งาน หรือแม้กระทั่งช่วยให้ห้องหรือบริเวณนั้นๆ ดูกว้างขึ้นได้

แสงที่นักออกแบบมักใช้สำหรับการตกแต่งภายในและภายนอกจะมี 3 ประเภทด้วยกัน คือ ไฟส่องสว่างทั่วไป (General Lighting) ไฟส่องเฉพาะที่ (Task Lighting) และ ไฟส่องเน้น (Accent Lighting)

1. ไฟส่องสว่างทั่วไป (General/Ambient Lighting)

ภายใน – เป็นการให้แสงสว่างแบบพื้นฐานทั่วไป คือกดสวิตช์แล้วสว่างทั่วทั้งบริเวณ สำหรับประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งกลางวันและกลางคืน เน้นที่การใช้งานและความปลอดภัยเป็นหลัก โดยดีไซน์เนอร์อาจจะออกแบบให้มีการใช้งานร่วมกับแสงธรรมชาติ หรืออาจจะใช้แสงเทียม (Artificial light) เนื่องจากทุกวันนี้หลอดไฟจำพวก LED สามารถเลียนแบบแสงธรรมชาติได้ค่อนข้างใกล้เคียงมากทีเดียว ไฟที่นิยมใช้ก็จะเป็นพวก โคมไฟตั้งพื้น โคมไฟตั้งโต๊ะ โคมไฟระย้า หรือไฟติดเพดาน เป็นต้น

ภายนอก – ไฟชนิดนี้ยังนำไปติดตั้งไว้ภายนอกอาคารด้วย เพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจนและเพิ่มความปลอดภัยโดยรอบ รวมถึงบริเวณทางเข้าและบันไดเพื่อลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุเวลาเข้าออกอาคาร เช่น ไฟสปอร์ตไลท์ โคมไฟสนาม โคมไฟเสาสูง โคมไฟเสาเตี้ย เป็นต้น

2. ไฟส่องเฉพาะที่ (Task Lighting)

ภายใน – สำหรับให้แสงสว่างเพื่อใช้ทำงานหรือประกอบกิจกรรมเฉพาะ เช่น อ่านหนังสือ ใช้คอมพิวเตอร์ ทำอาหาร ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ เช่น โคมไฟตั้งโต๊ะ ไฟห้อยเพดาน ไฟเส้นสำหรับติดใต้ตู้หรือเคาท์เตอร์ในครัว หรือดาวน์ไลท์ วัตถุประสงค์ก็เพื่อช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจน ไม่ต้องเพ่งสายตา ทำกิจกรรมได้สะดวก แต่ควรหลีกเลี่ยงไฟที่จ้าเกินไปหรือไฟที่ทำให้เกิดเงา โดยอาจติดตั้งเป็นสวิตช์เดี่ยวแยกจากสวิตช์รวม บางครั้งใช้ร่วมกับไฟส่องสว่างทั่วไปเพื่อเพิ่มความสว่างหรือเพื่อให้เกิดสีที่ต้องการสำหรับประกอบกิจกรรมเฉพาะอย่าง

ภายนอก – ใช้ส่องทางเดิน ระเบียง ทางเข้า หรือครัวนอกบ้าน เน้นการให้แสงสว่างเพื่อประกอบกิจกรรมและเพื่อความปลอดภัย เช่น ไฟผนัง ไฟกิ่ง ไฟหัวเสา และควรเลือกใช้ไฟสำหรับภายนอกโดยเฉพาะเนื่องจากมีความทนทานต่อสภาพอากาศต่างๆ เช่น ฝน ลมพายุ แดด

3. ไฟส่องเน้น (Accent Lighting)

ภายใน – เป็นการใช้แสง เช่นไฟฝังเพดาน ไฟแขวงผนัง ไฟราง หรือสปอร์ตไลท์ เน้นไปที่วัตถุที่ต้องการให้เป็นจุดเด่นดึงดูดความสนใจ เช่น รูปภาพ รูปปั้น ของสะสม หรือผิวของวัสดุ เช่น ผนังหรือบัวฝ้าที่ตกแต่งเป็นพิเศษ ซึ่งถ้าเป็นงานศิลปะมักจะนิยมใช้หลอด LED เนื่องจากไม่ปล่อยแสงยูวีและความร้อนที่อาจสร้างความเสียหายแก่รูปภาพ นอกจากนี้เรามักเห็นการใช้ไฟส่องเน้นในช้อปร้านค้า ซึ่งเขาจะใช้ General Lighting เป็นแบคกราวน์และใช้ Accent Lighting เน้นไปที่สินค้าเพื่อดึงดูดความสนใจ จัดเป็นแสงที่ใช้เพื่อความสวยงามมากกกว่าการใช้งานโดยตรง ในการจัดแสงแนะนำให้ใช้ไฟส่องเน้นที่มีความเข้มข้นเป็น 3 เท่าของแสงในห้องเพื่อให้เกิดจุดเด่นอย่างชัดเจน

ภายนอก – มักใช้ส่องสว่างบริเวณระเบียง ริมสระน้ำ ทางเดิน สวน ต้นไม้ ช่วยเพิ่มสเน่ห์และสร้างบรรยากาศกลางแจ้งให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น จะแตกต่างจาก Task lighting ตรงที่เน้นเรื่องของความสวยงามเป็นหลัก ไฟที่นิยมใช้ เช่น โคมไฟฝังพื้น โคมไฟใต้น้ำ โคมไฟบันได ซึ่งทุกวันนี้มีดีไซน์และเฉดสีที่หลากหลาย สามารถปรับระดับเพื่อสร้างเลเยอร์ให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งบ้านของคุณ รวมถึงยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และประหยัดพลังงาน เช่นหลอด LED

เราได้ทราบถึงประเภทของการใช้แสงไฟในการออกแบบแล้ว แนะนำว่าก่อนเริ่มวางแผนการจัดแสง คุณควรคำนึงถึงจุดประสงค์การใช้งานของห้องหรืออาคารนั้น ๆ ก่อน เพื่อให้สอดคล้องกับการตกแต่งและความต้องการ และสามารถเลือกประเภทของโคมไฟได้อย่างถูกต้องเหมาะสม

บี.กริม เทรดดิ้ง ให้บริการโซลูชันงานไฟฟ้าแสงสว่างเพื่องานสถาปัตยกรรมแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นแสงเลียนแบบธรรมชาติหรือแสงไฟอัจฉริยะที่สามารถสื่อสารกับผู้ใช้งานได้ มอบความโดดเด่นทั้งภายในและภายนอกให้กับโปรเจคของคุณ และสร้างความประทับใจแก่ผู้พบเห็น มั่นใจด้วยการรับประกันสินค้าและความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ปรึกษาเราได้เลย ที่นี่ https://bgrimmtrading.com/product-category/lighting-solution/

สอบถามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
https://bgrimmtrading.com/contact-us/
อีเมล: [email protected]
เบอร์โทรศัพท์ : +66 (0) 2710 3000
Line :  https://lin.ee/ItAW7DS  @bgrimmtrading

เรื่องล่าสุด